เมนู

30. อรรถกถาโขมทายกเถราปทาน


อปทานของท่านพระโขมทยกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นคเร พนฺธุ-
มติยา
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาล
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่ง
หนึ่ง เจริญวัยเเล้ว เลื่อมใสยิ่งในพระศาสนา นับถือพระรัตนตรัยว่าเป็น
ของของเรา ฟังธรรมในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี มีใจ
เลื่อมใส ได้กระทำการบูชาด้วยผ้าไหม. ท่านได้กระทำผ้าไหมนั้นนั่นแล
ให้เป็นมูลค่า ทำบุญตลอดชีวิต จากนั้นก็บังเกิดในเทวโลก. เสวยทิพย-
สุขไปมาในเทวดา 6 ชั้น จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เสวยมนุษยสมบัติมี
อย่างต่าง ๆ มีจักรพรรดิเป็นต้น ในมนุษยโลก เมื่อบุญสมภารถึงความแก่
รอบแล้ว บังเกิดในเรือนมีตระกูล ในพุทธุปบาทกาลนี้เจริญวัยแล้ว ฟัง
ธรรมในสำนักของพระศาสดาได้ศรัทธาแล้วบรรพชา เจริญวิปัสสนา ไม่
นานนักก็บรรลุพระอรหัต. ท่านปรากฏโดยนามแห่งบุญที่ตนได้ทำไว้ว่า
โขมทายกเถระ.
ท่านระลึกถึงบุพกรรมของคน เกิดโสมนัส เมื่อจะแสดงปุพพจริตา.
ปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า นคเร พนฺธมติยา ดังนี้ . ในคำนั้น ญาติ
ท่านเรียกว่า พันธุ พวกพ้องอยู่สืบต่อกัน มาในนครใด นครนั้นท่านเรียก

ว่า พันธุมดี. คำว่า โรเปมิ พีชสมฺปทํ ความว่า เราปลูก คือเริ่มตั้งพืช-
สมบัติ คือบุญ มีทานและศีลเป็นต้น.
จบอรรถกถาโขมททายกเถราปทาน
จบอรรถกถาสุภูติวรรคที่ 3
จบอรรถกถาจตุภาณวาร

รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ


1. สุภูติเถราปทาน 2. อุปวาณเถราปทาน 3. ตีณิสรณาคมนิย-
เถราปทาน 4. ปัญจสีลสมาทานิยเถราปทาน 5. อันนสังสาวกเถรา-
ปทาน 6. ธูปทายกเถราปทาน 7. ปุลินปูชกเถราปทาน 8. อุตติ-
เถราปทาน 9. เอกัญชลิกเถราปทาน 10. โขมทายกเถราปทาน.
คาถารวมทั้งหมดที่ท่านกล่าวไว้มี 185 คาถา.
จบสุภูติวรรคที่ 3
จบภาณวารที่ 4